ดาร์รอน กิ๊บสัน 'เทพตีนหนัก': จาก "นิว สโคลส์" สู่คนที่ สโคลส์ ไม่เอา
- plam421625
- 22 พ.ค. 2563
- ยาว 2 นาที

ดาร์รอน กิ๊บสัน จากนักเตะผู้เคยชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก เคียงข้าง ไรอัน กิ๊กส์ และ พอล สโคลส์ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่ผู้เล่นที่ได้รับค่าจ้างจากสองตำนานดังกล่าวในการเล่นฟุตบอลระดับดิวิชั่น 4
ปัจจุบันอดีตเพื่อนร่วมทีมของเขา ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาจากฉบับเดิมที่เคยได้รับอยู่ 6 เดือนในการค้าแข้งกับซัลฟอร์ด ซิตี้ ในลีก ทูของประเทศอังกฤษ โดยซีซั่นนี้ถูกตัดจบไปแล้วเพราะการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส
กิ๊บสัน อาจต้องผันตัวไปเตะฟุตบอลนอกลีก เว้นแต่ว่าเขาจะสามารถโน้มน้าวสโมสรในฟุตบอลลีกให้ลองมอบโอกาสอีกครั้ง ว่าแต่ทุกอย่างมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จากแชมป์พรีเมียร์ ลีกภายใต้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนกระเสือกกระสนดิ้นรนหาสังกัดที่ 8 ในการค้าแข้งระดับอาชีพ?
ขณะที่ความผิดหวังต่าง ๆ นา ๆ ถาโถมเข้าใส่ กิ๊บสัน เปรียบดั่งเงาตามตัวของเขาตั้งแต่โบกมือลาถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เรื่องสำคัญคือเราต้องไม่ลืมฝีเท้าที่น่าประทับใจสมัยที่เขาแจ้งเกิดขึ้นมา
เฟอร์กูสัน มอบโอกาสประเดิมสนามให้กับแข้งรายนี้ในศึกลีก คัพ ปี 2005 ที่พบกับบาร์เนต ปีเดียวกับที่เขาได้รับรางวัล จิมมี่ เมอร์ฟี่ ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร หลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทีมอคาเดมี่ปีศาจแดง
กิ๊บสัน ไม่ได้เป็นนักเตะซึ่งเป็นดาวเด่น แต่เขาปรับตัวเข้ากับขุมกำลังได้อย่างยอดเยี่ยม โดย แกรี่ เนวิลล์ หนึ่งในเจ้าของร่วมสโมสรซัลฟอร์ด ซิตี้ ณ เวลานี้ เคยให้สัมภาษณ์ว่า:
"อย่างแรกเลย พวกเขาไม่ใช่เด็ก ๆ" เนวิลล์ กล่าวในเกมที่แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะท็อตแน่ม 2-0 ในศึกลีก คัพ โดย กิ๊บสัน ยิงสองประตู
"พวกเขาเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์ และพวกเขาเข้ามาติดทีมโดยชอบธรรม คำวิจารณ์บางอย่างที่เข้ามามันไม่ค่อยยุติธรรมนัก แต่นั่นแหละคือการลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้สักเกมก็โดนแล้ว"
จุดพีคของ กิ๊บสัน คงหนีไม่พ้นประตูสุดสวยที่เขายิงใส่บาเยิร์น มิวนิคในการแข่งขันแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศฤดูกาล 2010/11
เวย์น รูนี่ย์ เพื่อนซี้ของเขาจ่ายบอลมาให้ ก่อนที่ กิ๊บสัน จะกดเต็มเท้าส่งบอลซุกก้นตาข่ายในเกมที่แมนฯ ยูไนเต็ดเอาชนะ 3-2 แต่เป็นฝ่ายตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือนเมื่อสกอร์ทั้งสองนัดเสมอกันไป 4-4
เฟอร์กูสัน ยกย่องแข้งรายนี้ถึงขั้นบอกว่า หมอนี่อาจเป็น สโคลส์ คนถัดไป แต่สิ่งดังกล่าวดูจะเป็นจุดสูงสุดของนักเตะซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2010
"มันคือการมีส่วนร่วมที่เรามักจะได้รับจาก พอล สโคลส์" เฟอร์กูสัน กล่าวในเวลาหนึ่งปีก่อนที่ กิ๊บสัน จะได้ชูถ้วยแชมป์
"ปกติเขาจะยิงให้ผมปีละ 12-14 ลูกในตำแหน่งมิดฟิลด์ เราไม่มีอะไรแบบนี้มาสักพักแล้ว"
กับแผงมิดฟิลด์ปีศาจแดงที่เปี่ยมไปด้วยผู้เล่นมากพรสวรรค์ที่ต้องแย่งตำแหน่งกัน และอาการบาดเจ็บช่วงออกสตาร์ตฤดูกาล 2010/11 กิ๊บสัน ถูกจำกัดโอกาสการลงเล่นไว้ที่ 60 นัด ยิงไป 10 ประตู ก่อนที่การย้ายทีมจะเกิดขึ้น ด้วยวัย 24 ปี เขาจำเป็นต้องได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อมีเหรียญแชมป์พรีเมียร์ ลีกห้อยคอ ความต้องการตัวเขานั้นสูงมาก
กิ๊บสัน เป็นเพื่อนสนิทกับ เวย์น รูนี่ย์ ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของแมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งคู่มักไปพักร้อนด้วยกันบ่อยครั้ง และครอบครัวของทั้งคู่ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี
มีการเปิดเผยมากกว่าหนึ่งครั้งระบุว่า รูนี่ย์ มีความสำคัญในการพา กิ๊บสัน ย้ายออกจากยูไนเต็ดไปอยู่กับเอฟเวอร์ตัน
"ผมคิดว่ามันเป็นการย้ายทีมที่ดีสำหรับเขานะ" เฟอร์กูสัน ให้สัมภาษณ์ในตอนนั้น "ดาร์รอน เขามีความสามารถที่วิเศษมาก ๆ แต่เขารู้ว่าเขาจะไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงตลอดเวลาที่นี่
"มีบางนัดเขาโชว์ฟอร์มอย่างโหดให้พวกเรา แต่โชคร้ายที่เขามีอาการบาดเจ็บช่วงต้นฤดูกาลทำให้ต้องพักไป 10 สัปดาห์ แต่ตอนนี้เขากลับมาฟิตแล้ว และมันก็เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขา"
กิ๊บสัน เองก็ดูจะสลัดจากความผิดหวังที่ต้องย้ายออกจากยูไนเต็ดได้เช่นกัน
"มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับผมในการก้าวเดินต่อจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" เขากล่าว "หวังว่าผมจะช่วยพัฒนาเอฟเวอร์ตันได้ นี่คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่และมีแฟนบอลที่ยอดเยี่ยม"
5 ปีถัดมา เขาค้าแข้งในถิ่นกูดิสัน พาร์ค ทำหน้าที่ในตำแหน่งมิดฟิลด์
เขาทำงานร่วมกับ เดวิด มอยส์ 2 ฤดูกาลก่อนที่ โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ จะเข้ามาคุมทีม ตามด้วย โรนัลด์ คูมัน บทบาทของเขาลดลงเรื่อย ๆ ในการเปลี่ยนผู้จัดการทีมทุกครั้ง และปัญหานอกสนามก็กลายเป็นเรื่องที่รุนแรงมากขึ้น
ในเดือนกันยายน 2015 กิ๊บสัน ถูกแบนห้ามขับรถยนต์เป็นเวลา 20 เดือน และถูกสั่งให้ทำงานช่วยเหลือสังคม 12 เดือน หลังยอมรับข้อหาเมาแล้วขับ, ขับรถโดยประมาท และไม่หยุดอยู่ในที่เกิดเหตุหลังขับรถชนนักปั่นจักรยาน 3 คน
การมาของ คูมัน ถือเป็นจุดจบของ กิ๊บสัน กับท็อฟฟี่สีน้ำเงิน เขาได้ลงสนามให้กุนซือชาวดัตช์เพียงนัดเดียว ก่อนถูกขายให้ซันเดอร์แลนด์พร้อมกับ ไบรอัน โอเบียโด้ เพื่อนร่วมสังกัดเมื่อปี 2017
ซันเดอร์แลนด์ เคยพยายามเซ็นสัญญา กิ๊บสัน มาแล้วตั้งแต่ตอนก่อนย้ายออกจากยูไนเต็ด แต่พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จ
เดวิด มอยส์ คือกุนซือที่กลับมาร่วมงานกับเขา และโอเบียโด้อีกครั้งในถิ่นแวร์ไซด์ โดย ณ เวลานั้น สโมสรจมอยู่ในอันดับบ๊วยของพรีเมียร์ ลีก หน้าที่ของเขาคือการอัดฉีดคุณภาพลงสู่ขุมกำลังของทีม
แต่สถานการณ์ไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย กิ๊บสัน และเพื่อนร่วมทีมต้องตกชั้น ซึ่ง ณ เวลานั้น เรื่องนอกสนามของแข้งทีมชาติไอร์แลนด์เละเทะพอ ๆ กับฟอร์มในสนาม
ไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก 'แมวดำ' โดนเซลติกถล่ม 5-0 ในเกมพรีซีซั่นเดือนกรกฎาคม 2017 กิ๊บสัน ถูกถ่ายคลิปในบาร์ของโรงแรม ขณะกำลังด่าทอทีมตัวเองว่า "กาก" และบอกว่าเพื่อนร่วมทีมไม่เห็นจะแคร์อะไรกัน
การตะโกนด่าทอของเขาถูกบันทึกเอาไว้ทั้งหมด ทั้งคำว่า "พวกเราแม่งโคตรกาก" "มีหลายคนในสโมสรที่แม่งไม่สนใจห่าเหวอะไร" และ "กูอาจจะโคตรเมา แต่กูก็ยังอยากเล่นให้ซันเดอร์แลนด์ แต่ไอ้พวกที่เหลือแม่งไม่อยากเล่นไง"
การระบายอารมณ์ของ กิ๊บสัน ในครั้งนี้ เป็นส่วนสำคัญในตอนเปิดตัวของสารคดี 'Sunderland 'Till I Die' ที่ถูกนำมาฉายบน Netflix กิ๊บสัน ออกมายอมรับว่าเขาเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป โดย ซันเดอร์แลนด์ ไม่ได้มองคลิปหลุดนี้เป็นเรื่องเล่น ๆ และจัดการลงโทษ กิ๊บสัน ซึ่งหลังจากนั้นออกมากล่าวขอโทษต่อพฤติกรรมของเขาในบาร์ที่โรงแรม
มาร์ติน เบน ซีอีโอของสโมสร ถูกสัมภาษณ์โดยโปรดิวเซอร์ในรายการ และเขาก็ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจน
"เห็นแบบนี้แล้วมันทำให้คุณรู้สึกป่วย มันคืออารมณ์ลบในช่วงเริ่มต้นฤดูกาล ซึ่งเป็นเวลาที่คุณพยายามสร้างอะไรต่าง ๆ นา ๆ ที่มันเป็นพลังบวกขึ้นมา
"อารมณ์แง่ลบของการตกชั้นจากพรีเมียร์ ลีกนี่ก็มากพอแล้ว และไหนจะปัญหาที่มีอยู่อีก คุณคิดว่าคุณจัดการเรื่องต่าง ๆ ไปได้แล้ว จากนั้น ดาร์รอน กิ๊บสัน ออกมาทำอะไรบางอย่างที่ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ยอมรับไม่ได้กับสโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์ และแฟนบอลของสโมสรทุก ๆ คน"
แถลงการณ์จากสโมสร ณ เวลานั้น ระบุว่า: "ดาร์รอน กิ๊บสัน มิได้ปฏิบัติตัวในแนวทางที่เหมาะสมกับสโมสรฟุตบอลซันเดอร์แลนด์ จากผลลัพธ์ของสิ่งนี้ เราได้เริ่มต้นกระบวนการสอบสวนด้านวินัยภายในเพื่อจัดการกับปัญหา ดาร์รอน ได้ออกมาขอโทษเมื่อช่วงเช้า"
ฝันร้ายของ กิ๊บสัน กับซันเดอร์แลนด์ จบลงในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากนั้น สโมสรตัดสินใจยกเลิกสัญญาของเขาหลังนักเตะโดนตัดสินว่ามีโทษจากข้อหาเมาแล้วขับ เขาลงเล่นให้ทีมแมวดำไป 30 นัด นับตั้งแต่ย้ายมาจากเอฟเวอร์ตัน
กองกลางรายนี้ ขับรถเร็วกว่าความเร็วที่กฎหมายกำหนด 3 ครั้งหลังเฉี่ยวชนรถแท็กซี่ และขับต่อไปอีกหลายไมล์ ก่อนที่รถเมอร์เซเดส 4x4 ของเขาจะชนเข้ากับรถที่จอดอยู่ระหว่างการเดินทางไปที่ศูนย์ฝึกซ้อมของซันเดอร์แลนด์ในวันเซนต์ แพทริคเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2018
รีเบคก้า ลาเวอริค อัยการผู้ส่งฟ้อง กล่าวว่า: "จำเลย ถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณข้างถนนของที่เกิดเหตุ ซึ่งสรุปได้ว่าเป็นการเมาแล้วขับ
"เขาบอกว่าเขาดื่มไปสองขวดในคืนก่อนหน้านั้น แต่สิ่งดังกล่าวไม่สอดคล้องกับลักษณะท่าทาง และการพูดของเขา อีกทั้งยังมีกลิ่นของแอลกอฮอล์ออกมาด้วย"
สุดท้าย กิ๊บสัน ไม่ต้องโดนจำคุก โดยถูกสั่งให้ปฏิบัติงานช่วยเหลือสังคมเป็นเวลา 2 ปี
จากวันที่เคยถูกมองว่าเขาจะก้าวมาเป็นทายาทของ พอล สโคลส์ ได้เลือนหายไปหมดแล้ว และเมื่อความต้องการในฝีเท้าของเขาลดน้อยลงอย่างมาก อาชีพค้าแข้งของ กิ๊บสัน ได้ก้าวเข้าสู่ทางแยกสำคัญ
สโมสรต่าง ๆ จากที่เคยวิ่งไล่แย่งชิงลายเซ็นของเขา กลับต้องอ่านป้ายคำเตือนกันเป็นแถว แต่ พอล คุ๊ก กุนซือวีแกนตัดสินใจมอบโอกาสให้ กิ๊บสัน แก้ตัวอีกครั้งหนึ่ง
คุ๊ก กล่าวในตอนเซ็นสัญญาเปิดตัวนักเตะว่า: "ดาร์รอน เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ เขาเคยลงเล่นในระดับสูงสุด และเป็นการเสริมทัพให้กับขุมกำลังที่ยอดเยี่ยม"
อิมแพ็คต์ของเขาจากการยิงประตูใส่บาเยิร์น มิวนิคที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ตกต่ำลงไปถึงจุดที่ได้ลงปรากฎตัวให้วีแกน 18 นัด ก่อนเป็น 1 ใน 6 นักเตะที่ถูกปล่อยตัวออกจากทีมหลังสิ้นสุดฤดูกาล
6 เดือนที่ไม่ได้ลงสนาม ตามมาด้วยคนหน้าเก่าที่มอบโอกาสการค้าแข้งให้เขาอีกรอบในรายการลีก ทู ซึ่งถือว่าห่างไกลจากระดับที่เขาเคยลงแข่งขันเป็นอย่างมาก
หลังเซ็นสัญญาระยะเวลา 6 เดือนเพื่อย้ายไปรับใช้ซัลฟอร์ด ซิตี้ ที่มี แกรี่ เนวิลล์, ฟิล เนวิลล์, นิคกี้ บัตต์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์ และ เดวิด เบ็คแฮม เป็นเจ้าของ กิ๊บสัน ให้สัมภาษณ์ว่า:
"ผมตั้งตารอสิ่งนี้ มันคือความท้าทายครั้งใหม่
"ผมชอบทิศทางที่สโมสรกำลังดำเนินไป เราพยายามผลักดันให้ได้เลื่อนชั้น และผมก็เฝ้ารอการมีส่วนร่วม และการออกสตาร์ต
"ส่วนตัวแล้วมันเป็นความท้าทายสำหรับผม ผมไม่ได้ลงสนามมาสักพัก ตอนนี้ผมแค่ตั้งตารอโอกาสที่จะได้กลับไปเล่นฟุตบอลอีกครั้ง"
ซัลฟอร์ด ที่อยู่โซนบนของตาราง และกำลังแข่งขันเพื่อการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีก วัน ก่อนที่ฤดูกาลจะถูกตัดจบจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ได้ตัวนักเตะผู้ซึ่งเคยติดทีมชาติไอร์แลนด์ 27 ครั้งเข้าสู่ขุมกำลัง
กิ๊บสัน ได้โอกาสลงสนามเพียงแค่ 4 นัด ภายใต้การคุมทีมของ เกรแฮม อเล็กซานเดอร์ ซึ่งสัญญา 6 เดือนของเขาต้องจบลง หลังจากที่สโมสรต่าง ๆ โหวตให้ยุติฤดูกาล เพราะค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานภายใต้สถานการณ์ที่วิกฤตเช่นนี้
ถือเป็นความน่าผิดหวังอีกหนึ่งครั้งที่เกิดขึ้นกับ กิ๊บสัน โอกาสที่จะทำให้อาชีพค้าแข้งกลับเข้าที่เข้าทางของดาวเตะวัย 32 ปีได้มลายหายไป
จากนักเตะเยาวชนที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเหนือกว่าผู้เล่นวัยเดียวกันที่สโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู่นักเตะที่ถูกปล่อยตัวโดยเจ้าของสโมสร ซึ่งเคยอยู่ร่วมห้องแต่งตัวเดียวกันกับเขา การตกต่ำที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจจริง ๆ
เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ >>> ยิงปลาได้เงิน
Yorumlar